ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 เสียชีวิตเป็นรายที่ 4  ของจังหวัดแพร่ ติดเชื้อทั้งครอบครัว 4 คนพ่อแม่ลูก กลับมารักษาตามโครงการคนแพร่ไม่ทิ้งกัน สุดท้ายแม่ไม่รอดมีโรคไต และหอบหืด เสียชีวิตในที่สุด

          เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 17 สิงหาคม 2564 ชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษตอบโต้ covid 19 โดย สมาคมอาสาสมัครกู้ภัยจังหวัดแพร่ รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่โรงพยาบาลแพร่ จึงจัดเจ้าหน้าที่ออกร่วมปฏิบัติการนำร่างผู้เสียชีวิตทำพิธีฌาปนกิจศพที่ ป่าช้าประตูมาร ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ โดยมีครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้นำชุมชม มาร่วมพิธีจำนวนไม่มาก 

         ิสอบถาม ลูกชายของผู้เสียชีวิตวัย 33 ปี ทราบว่า แม่และพ่อ พร้อมน้องชาย 2 คน อายุ 24 ปี และ 15 ปี ซึ่งทั้งหมดย้ายไปอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการได้หลายปีแล้ว แต่เกิดติดเชื้อและไม่มีโรงพยาบาลรักษา ตนอยู่ที่แพร่ ไม่ได้ย้ายไปด้วยเพราะเป็นลูกคนโตเกิดจากพ่อคนแรก รับทราบข่าวจึงได้ประสานขอเข้าร่วมโครงการคนแพร่ไม่ทิ้งกัน โดยพ่อและน้องชายคนกลางวัย 24 ปีมาก่อน เพราะอาการไม่รุนแรง ขอเข้าร่วมโครงการของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ซึ่งมีรถรับส่งทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามและอาการดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนแม่และน้องชายคนเล็กเพิ่งมาเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมาโดยครอบครัวเหมารถมาเองในราคา 13,000 บาท เพราะแม่ค่อนข้างตัวใหญ่เดินทางลำบาก เลยต้องมาเอง แรกๆ  ที่มาอาการไม่รุนแรงมีเพียงไอบ้าง มาครั้งแรกเข้าคัดกรองที่โรงพยาบาลสนามจังหวัดแพร่ และส่งตัวเข้ารักษาต่อที่โรงพยาบาลแพร่ จนรับแจ้งว่าแม่มีอาการทรุดหนักและเสียชีวิตเมื่อเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้พ่อรักษาตัวหายแล้ว แต่ยังต้องกักตัวอยู่ที่บ้านอีก 14 วัน ส่วนน้องชายคนกลางอายุ 24 ปี มีอาการเชื้อลงปอดเพิ่งออกจากห้อง icu ส่วนน้องชายคนเล็กอาการไม่รุนแรงตอนนี้อยู่ศูนย์พักคอยอีก 2 วันจะได้กลับบ้าน  ทุกคนยังไม่มีใครได้รับการฉีดวัคซีน และยังอยู่ระหว่างการรักษาและกักตัว จึงทำให้ไม่สามารถมาร่วมงานศพได้

       ทางด้าน นายพงษ์ศิลป์ อินทเจริญศานต์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.น้ำเลา อ.ร้องกวาง จ.แพร่ ที่ผ่านมาหากลูกบ้านที่อยู่ต่างจังหวัดแล้วมีการติดเชื้อ ได้ติดต่อมาทางเราก็จะคอยประสานกับทางโรงพยาบาลสนามให้ โดยจะต้องมีผลการตรวจแบบ RT -PCR ก่อน เราจะมีการติดต่อผู้ป่วยตลอด ส่วนใหญ่ที่ติดต่อมาจะอยู่ในพื้นที่ชลบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพฯ  เท่าที่ประสานให้เข้าโรงพยาบาลสนามไปแล้ว 20-30 รายแล้ว ที่ผ่านมาพบปัญหามีเคสหนึ่งที่เค้ามีผลแล็ปมาแต่ไม่มีผล RT-PCR ซึ่งไม่เข้าเงื่อนไขของทางโรงพยาบาลสนาม แต่ผู้ป่วยนั้นได้เดินทางมาถึงจังหวัดแพร่แล้ว ซึ่งตอนนั้นทางจังหวัดได้ให้ไปกักตัวที่โรงแรมน้ำเงินก่อน แล้วตรวจใหม่อีกครั้ง สำหรับผู้ที่ยังไม่มีผล เราได้แนะนำให้ไปขอตรวจกับทางโรงพยาบาลและแจ้งว่าจะกลับไปรักษาตัวที่จังหวัดแพร่ ถึงได้ผล RT-PCR มา สำหรับผู้ป่วยที่อยู่ไกล เราก็ได้แนะนำไปว่า จะมีวันจันทร์ วันพุธ วันศุกร์ ซึ่งเป็นของทหาร แต่หากมีอาการหนักรอไม่ไหวแล้ว บางคนก็จะหารถมาเอง