สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่รายงานว่า วันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม พระราชทานผ้าพระกฐิน ให้กรมป่าไม้ นำโดยนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ เป็นประธานนำคณะข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของกรมป่าไม้ ได้นำไปทอดถวายยังที่ชุมนุมสงฆ์ ผู้จำพรรษาถ้วนไตรมาส ณ พระอุโบสถ วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ โดยพระราชเขมากร เจ้าคณะจังหวัดแพร่ เจ้าอาวสาวัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร เป็นผู้ครองผ้าพระกฐิน มีนางสาวนิติยา พงษ์พานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่นำคณะข้าราชการ ประชาชนในพื้นที่ ร่วมประกอบพิธีถวายผ้าพระกฐินดังกล่าว ทั้งนี้ มียอดร่วมทำบุญและสมทบทุนถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน เพื่อถวายจตุปัจจัยบำรุงพระพุทธศาสนา และบูรณะพระอาราม และทุนการศึกษา เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2,124,999 บาท
วัดพระบาทมิ่งเมืองนั้น มาจากสองวัดรวมกัน ได้แก่ วัดพระบาท และวัดมิ่งเมือง ตั้งอยู่ห่างกันเพียงมีถนนกั้นเท่านั้น วัดพระบาทเป็นวัดของพระยาอุปราชหรือเจ้าหอหน้า ส่วนวัดมิ่งเมืองเป็นวัดของเจ้าผู้ครองนครแพร่ เมื่อเมืองนครแพร่ถูกล้มเลิกระบบเจ้าผู้ครองนคร วัดทั้งสองก็ถูกทอดทิ้งอยู่ในสภาพทรุดโทรมมาก กระทั่งคณะกรมการจังหวัดเห็นสมควรรวมสองวัดเข้าด้วยกัน ให้ชื่อว่า วัดพระบาทมิ่งเมือง ในปี พ.ศ. 2498 วัดพระบาทมิ่งเมือง ได้รับพระบรมราชานุญาตให้เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร”
และวันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม พระราชทานผ้าพระกฐิน ให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย โดยนายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ คณะข้าราชการในพื้นที่ร่วมถวายผ้าพระกฐินพระราชทานแด่พระภิกษุสงฆ์ ผู้จำพรรษาถ้วนไตรมาส ณ พระอุโบสถ วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ โดยพระโกศัยเจติยารักษ์ รองเจ้าคณะจังหวัดแพร่ เจ้าอาวสาวัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง เป็นผู้ครองผ้าพระกฐินดังกล่าว มียอดร่วมทำบุญและสมทบทุนถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน เพื่อถวายจตุปัจจัยบำรุงพระพุทธศาสนา และบูรณะพระอาราม และทุนการศึกษา เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,999,999 บาท
วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดแพร่ และเป็นวัดพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 11 ถนนช่อแฮ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ บนเนื้อที่ 175 ไร่ ระยะทางห่างจากตัวเมืองจังหวัดแพร่ ประมาณ 9 กิโลเมตร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ยกวัดพระธาตุช่อแฮ เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2549 องค์พระธาตุช่อแฮเป็นเจดีย์ศิลปะล้านนา ทรงแปดเหลี่ยม บุด้วยทองดอกบวบหรือทองจังโก องค์พระธาตุสูง 33 เมตร ฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ 11 เมตร
ฉัตรชัย พวงขจร / ข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดแพร่